Blogger..นี้สร้างขึ้นเพื่อให้ผู้ที่ต้องการข้อมูลต่างๆทั้งเเบบวิชาการเเละเรื่องความสวยงามได้มาสืบค้นเพื่อนำไปใช้ตามความต้องการต่างๆของตนเองได้ จากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม



I'am Nam.Phiromya

วันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2554

น้ำผลไม้ไม่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายจริงหรือไม่

ทั้งๆที่บางครั้งสินค้าตัวนั้น ก็แทบจะไม่ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพเลย

คุณหมอวรรณี บอกว่า ถ้านำน้ำหวานกับน้ำผลไม้มาเปรียบเทียบกัน น้ำผลไม้ก็ยังมีประโยชน์ มากกว่าน้ำหวาน เพราะยังมีสารอาหารที่ให้ประโยชน์ ต่อร่างกายอยู่บ้าง

“แต่น้ำผลไม้ที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกายนั้น จะต้องเป็นน้ำผลไม้คั้นสด ย้ำว่าคั้นสดๆ และต้องไม่ผ่านกระบวนการผลิตทางอุตสาหกรรมอาหาร เพราะถ้าผ่านกระบวนการผลิตแล้ว สารอาหารทั้งหมดของน้ำผลไม้ก็จะหายไปทันที แต่ถึงอย่างไรก็ตาม หากนำน้ำผลไม้ ทุกรูปแบบ มาเปรียบเทียบกับผลไม้สดทั้งผลแล้ว น้ำผลไม้ก็แทบจะไม่ให้ประโยชน์ อะไรต่อร่างกาย”
10 เคล็ดลับ การกินอาหารเพื่อสุขภาพ
1.กินอาหารเช้า
เป็นพฤติกรรมพื้นฐานที่ส่งผลต่อสภาพจิตใจ และพลังชีวิตของคุณไปตลอดทั้งวัน การกินอาหารเช้า ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด ลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ ช่วยให้การเผาผลาญพลังงานดีขึ้น ทำให้คุณกินอาหารในมื้ออื่นๆ น้อยลง

2. เปลี่ยนน้ำมันที่ใช้ปรุงอาหาร
ยอมจ่ายแพงสักนิดใช้น้ำมันมะกอก หรือน้ำมันดอกทานตะวัน ปรุงอาหารแทนน้ำมันแบบเดิม ที่คุณเคยใช้ดีกว่า เพราะไม่มีไขมันที่เป็นโทษต่อร่างกาย และมีกรดไขมันอิ่มตัวที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยลดไขมันในเส้นเลือดได้เป็นอย่างดี

3. ดื่มน้ำให้มากขึ้น
คนเราควรดื่มน้ำวันละสองลิตรเป็นอย่างน้อย เพื่อหล่อเลี้ยงเซลล์ในร่างกาย ฟื้นฟูระบบขับถ่าย รักษาระดับความเข้มข้นของเลือด จะทำให้คุณสดชื่นตลอดวันเลยทีเดียว

4. เสริมสร้างแคลเซียมให้กับกระดูก
ด้วยการดื่มนม กินปลาตัวเล็กทั้งตัวทั้งก้าง เต้าหู้ ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง ผักใบเขียว เพราะแคลเซียมเป็นสิ่งจำเป็น ที่จะเสริมสร้างความแข็งแรง ให้กับกล้ามเนื้อและกระดูก ทำให้ระบบประสาททำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

5. บอกลาขนม ของจุกจิก
ตัดของโปรดประเภทโดนัท คุกกี้ เค้กหน้าครีมหนานุ่ม ออกจากชีวิตบ้าง แล้วหันมากินผลไม้เป็นของว่างแทนวิตามิน และกากใยในผลไม้ มีประโยชน์กว่าไขมัน และน้ำตาลจากขนมหวานเป็นไหนๆ

6. สร้างความคุ้นเคย กับการกินธัญพืชและข้าวกล้อง
เมล็ดทานตะวัน ข้าวฟ่างและลูกเดือย รวมทั้งข้าวกล้องที่เคยคิดว่าเป็นอาหารนก ได้มีการศึกษาและค้นคว้าแล้ว พบว่า ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ ถึงหนึ่งในสามเลยทีเดียว เพราะอุดมไปด้วยไฟเบอร์ ที่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และควบคุมน้ำตาลในเลือดให้สมดุล

7. ได้เวลาน้ำชาแล้ว
ทั้งชาดำ ชาเขียว ชาอู่ล่ง หรือเอิร์ลเกรย์ ล้วนแล้วแต่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ การดื่มชาวันละ 1 ถึง 3 แก้ว ช่วยลดอัตราเสี่ยงมะเร็งกระเพาะอาหารถึง 30%

8. กินให้ครบทุกสิ่งที่ธรรมชาติมี
หมายความว่า คุณต้องพยายามรับประทานผักผลไม้ต่างๆ ให้หลากสี เป็นต้นว่าสีแดงมะเขือเทศ สีม่วงองุ่น สีเขียว บร็อคคอลลี สีส้มแครอท อย่ายึดติดอยู่กับ การกินอะไรเพียงอย่างเดียว เพราะพืชต่างสีกัน มีสารอาหารต่างชนิดกัน แถมยังเป็นการเพิ่มสีสันการกินให้กับคุณด้วยแหล่ะ

9. เปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนรักปลา
การกินปลาอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง ได้ทั้งความฉลาดและแข็งแรง เพราะปลามีกรดไขมันโอเมก้า 3 และโปรตีน ที่ช่วยควบคุมการเต้นของหัวใจให้เป็นปกติ และบำรุงเซลล์สมอง ทั้งยังมีไขมันน้อย อร่อยย่อยง่าย เหมาะสำหรับ คนที่ต้องการหุ่นเพรียวลมเป็นที่สุด

10. กินถั่วให้เป็นนิสัย
ทำให้ถั่วเป็นส่วนหนึ่งของอาหารที่คุณต้องกินทุกวัน วันละสักสองช้อน ไม่ว่าจะเป็นของหวานของคาว หรือว่าของว่างก็ทั้งโปรตีนวิตามิน และแร่ธาตุสำคัญๆ หลายชนิด ต่างพากันไปชุมนุมอยู่ในถั่วเหล่านี้ ควรกินถั่วอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่ควรกินครั้งละมากๆ เพราะมีแคลอรี่สูง อาจทำให้อ้วนได้  
 

สุขภาพดี12 วิธีสร้างสุขเล็ก ๆ เพื่อสุขภาพ




12 วิธีสร้างสุขเล็ก ๆ เพื่อสุขภาพ (Health Plus)

          แผนปฏิบัติเพื่อสุขภาพดีไม่ต้องยิ่งใหญ่อลังการ หรือยุ่งยากเสียจนคุณไม่มีเวลาหาความสุขให้ตัวเอง เพราะแค่เวลาเพียงเล็กน้อย ก็ทำให้คุณมีสุขภาพที่ดีได้

          การจะมีสุขภาพดีได้นั้น ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องหันหลังให้กับสิ่งที่คุณชอบ เพราะอันที่จริงแล้วการใช้ชีวิตให้สนุก เป็นแรงบวกที่ทำให้สุขภาพดีทั้งกายและใจ การให้ความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ กับตัวเองสักวันละหนึ่งอย่างทุก ๆ วัน จะสร้างความพึงพอใจ คลายเครียด และช่วงเวลาแห่งความสุขนี้เองที่ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านการโรค จิตใจเบิกบาน ความเครียดหายไป และอื่นๆ  เอาล่ะ...ถึงเวลาตามใจตัวเองกันแล้ว

1.เอร็ดอร่อยกับแกงกะหรี่อินเดีย

          สุขกับค่ำคืนพร้อมอาหารอร่อย แนะให้เลือกแกงกะหรี่ที่อัดแน่นด้วยเครื่องเทศ ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งดีต่อสุขภาพร้อยเปอร์เซ็นต์ เริ่มตั้งแต่ขิง ช่วยรักษาอาการไขข้ออักเสบ กระเทียมช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทาน ลูกซัค (fenugreek) ช่วยการทำงานของระบบย่อยอาหาร พริกช่วยให้อารมณ์ดี และอบเชยช่วยทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสมดุล ซึ่งคุณประโยชน์ทั้งหมดนี้พบได้ในอาหารอินเดียจานเด็ดนี้

2.นวดหน้า

          ไม่ว่าจะไปนวดหน้าที่ร้านเสริมสวย หรือลงมือนวดเองที่บ้าน การนวดหน้าเป็นวิธีช่วยผ่อนคลายที่ดี ทำให้ผิวเปล่งปลั่งมีสุขภาพดี "เมื่อคุณมีความสุข หน้าตาก็จะดูอิ่มเอิบ" บาร์ติ วาส กูรูความงามกล่าว การทาครีมและนวดหน้าเป็นประจำทุกวัน จะช่วยกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนดี และช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมาสดชื่นเปล่งปลั่ง

นวดหน้า

3.เติมความวาบหวาม ดินเนอร์ใต้แสงเทียนกับไวน์สักแก้ว

          จะช่วยให้คุณอยู่ภายใต้อารมณ์แห่งรัก และถ้าเป็นไปได้ ให้ทำมากกว่านั้น "เมื่อถึงจุดสุดยอด เอนโดร์ฟินในสมองจะถูกหลั่งออกมา ซึ่งก็คือฮอร์โมนแห่งความสุข ที่ช่วยให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายและความเครียดหายไป" จูเลีย โคลที่ปรึกษาด้านความสัมพันธ์และผู้เชี่ยวชาญของ Health Plus กล่าว

4.แช่ตัวในอ่างอาบน้ำ

          การแช่ตัวในน้ำอุ่น ช่วยผ่อนคลายความเครียดและบรรเทาอาการปวดเมื่อยอย่างได้ผล หรือจะเปลี่ยนจากการอาบน้ำธรรมดามาเป็นสปาเพื่อสุขภาพ ก็ไม่ยุ่งยากแต่อย่างใด เป็นการทำดีท็อกซ์โดยเติมเกลือ Epsom salts หนึ่งกำมือพูน ๆ ลงในอ่างอาบน้ำ ตามด้วยชาคาโมไมล์ 2 ถุง เพื่อไม่ให้ผิวแห้ง หรือจะเติมน้ำมันหอมระเหยกลิ่นลาเวนเดอร์ลงไปด้วยก็ได้ ก็จะช่วยให้หลับสบาย

5.กินช็อกโกแลต

          ช็อกโกแลต เครื่องดื่มเพิ่มพลังงานที่ใช้ดื่มในงานพิธีของพวกแอซเทค (Aztecs) ช็อกโกแลตเป็นอาหารเช้าเพิ่มคุณค่าทางอาหารสำหรับชนชั้นสูงชาวอังกฤษ ในช่วงศตวรรษที่ 17 รสชาติของช็อกโกแลตสร้างความรู้สึกรื่นรมย์ มากเสียจนแม้แต่กลิ่นของมัน สามารถกระตุ้นให้ร่างกายสามารถสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวได้ภายใน 2 ชั่วโมงหลังจากนั้น ดังนั้นอย่ารู้สึกผิดที่นาน ๆ ทีกินช็อกโกแลต และถ้าไม่กลัวอ้วน เลสลี เคนตัน ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและความงามแนะว่า "ให้เลือกทานช็อกโกแลตคุณภาพดี รสชาติเข้มข้น ทานแค่หนึ่งหรือสองอัน โดยไม่ต้องทานหมดทั้งกล่อง"



6.เที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับ

          คุณไปเที่ยวครั้งสุดท้ายเมื่อไร เตรียมข้าวของออกไปปิกนิกที่สวนสาธารณะกันดีกว่า หรือจะไปเที่ยวชานเมืองหรือเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ เลือกสถานที่ที่คุณชอบ การได้ละทิ้งภารกิจที่ต้องทำเป็นประจำชั่วคราว จะทำให้คุณรู้สึกสดชื่น "สามีและฉันเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับ" เพนนี อีแวนส์ วัย 51 ปีกล่าว "บางครั้งเจอฝนตก เราสองคนก็จะวิ่งไปหลบฝนกันในร้านกาแฟ สั่งชาร้อนมาดื่ม แต่ก็ยังหัวเราะกันได้สนุก"

7.พบปะเพื่อนฝูง

          มีการศึกษาวิจัยมากมายระบุว่า คนที่ชอบออกนอกบ้านไปพบปะสังสรรค์เพื่อนฝูง จะมีโอกาสน้อยที่จะเป็นหวัด มีอาการซึมเศร้า หรือขี้หลงขี้ลืมในยามชรา นี่อาจใช้เป็นข้ออ้างที่ดีในการออกไปเที่ยวกลางคืน หรือไปดื่มกาแฟกับเพื่อนฝูง


8.นวดตัว

          การนวดช่วยให้ความดันโลหิตลดลง ทั้งยังคลายอาการปวดตึงกล้ามเนื้อ การนวดทำให้รู้สึกสบายผ่อนคลาย หลังคร่ำเคร่งกับภารกิจที่หนักอึ้งมาตลอดทั้งวัน ให้แฟนของคุณช่วยนวดคอและไหล่ด้วย น้ำมันหอมระเหย หรือจะใช้เครื่องนวดขนาดพกพานวดเท้าและมือ หรือจะไปนวดทั่วตัวที่สปาหรือร้านเสริมสวย

9.งีบหลับตอนบ่าย

          "อย่านึกละอายใจที่จะแอบงีบหลับในตอนบ่าย" นีล สแตลีย์ ผู้อำนวยการห้องปฏิบัติการนอนหลับของมหาวิทยาลัยเซอร์เรย์กล่าว "คุณจำเป็นต้องนอนพักผ่อนหากรู้สึกอ่อนเพลีย และหากธรรมชาติของร่างกายต้องการการงีบหลับสั้น ๆ ในตอนบ่าย ก็ควรหาเวลานอนซะ"

10.พรมน้ำหอม

          กลิ่นหอมช่วยสร้างความทรงจำที่น่าประทับใจ การฉีดพรมน้ำหอมกลิ่นที่คุณชื่นชอบจะทำให้คุณมีความสุขตลอดวัน ประสาทรับกลิ่นมีพลังมากพอ ที่จะสามารถเรียกความทรงจำเก่าก่อนให้กลับคืนมา ได้มากกว่าประสาทสัมผัสอื่น ๆ ดังนั้นอย่าลืมพรมน้ำหอมในโอกาสแห่งความสุขของคุณ
น้ำหอม

11.ยกเท้าขึ้น

          เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว จำเป็นต้องพักผ่อนเสียบ้าง ให้นอนราบบนโซฟา ยกเท้าให้สูงขึ้นโดยวางบนม้านั่งเล็ก ๆ เพื่อคลายความเมื่อล้าของเท้า การวางเท้าให้สูงไม่เพียงช่วยให้เลือดไหลเวียนดี เท่านั้น แต่ยังช่วยป้องกันการเป็นโรคเส้นเลือดขอดและลดอาการบวมของข้อเท้า

12.ส่งของขวัญให้ตัวเอง

          ง่าย ๆ ค่ะ มอบความสุขทั้งกายและใจด้วยการสมัครเป็นสมาชิกนิตยสารดี ๆ สักเล่ม แล้วคุณจะได้รับสาระดี ๆ ส่งตรงให้ตัวเองทุก ๆ เดือนเลยทีเดียว
ปาร์ตี้



ทีมา: 

สับปะรดเพื่อผิวสวย


 เรื่องข้อศอกดำ หัวเข่าด้านนั้น เป็นปัญหาที่ทำให้สาว ๆ ใส่สายเดี่ยว กระโปรงสั้นไม่ได้ ถึงแม้ว่า จะหน้าตาดีแค่ไหน แต่ก็คงไม่มั่นใจที่จะใส่แล้วทำให้เห็นรอยดำ และรอย ด้าน นั้น วันนี้มีเคล็ดลับที่จะทำให้คุณไม่ต้องกังวลกับปัญหานี้อีกต่อไปแล้วครับ
สิ่งที่นำมาแนะนำวันนี้คือ เอนไซม์จากสับปะรดค่ะ ซึ่งสับปะรดก็เป็นผลไม้ที่หาง่าย มีทุกฤดูกาล เรามาดูขั้นตอนการทำกันดีกว่านะครับ
1.นำเอาสับปะรด 1/4 ผล ไปสับให้ละเอียด แล้วนำไปเข้าตู้เย็น
2.เมื่อได้เวลาอาบน้ำ ก็เปิดตู้เย็นและหยิบสับปะรดที่เราเตรียมไว้ไปด้วย เมื่ออาบน้ำขัดตัวเสร็จแล้ว เราก็หยิบสับปะรดเย็น ๆ ที่เตรียมมาไปขัดแขน ขา ข้อศอก หัวเข่า หรือบริเวณที่ต้องการ
3.ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที จึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด เช็ดให้แห้ง แล้วทาด้วยครีมบำรุงผิวที่ใช้ประจำ
สูตรนี้ทำได้บ่อยครั้ง แต่ก็ไม่ควรเกินวันเว้นวัน และรับรองได้เลยว่าผิวคุณจะเนียนนุ่ม ไม่มีปัญหาศอกดำ เข่าด้านให้กังกลใจแน่นอนเลย...

7 สูตรพอกหน้าจาก 7 ประเทศ

หากคุณเป็นผู้หนึ่งที่อยากมีใบหน้าสวยใส ดูอ่อนกว่าวัยอยู่เสมอ วันนี้เรามีสูตรการพอกหน้าแบบพิเศษ ที่สรรหามาจากทั่วโลกให้คุณได้บำรุงผิวหน้าของคุณ ให้คุณมีผิวที่ขาวใส แลดูอ่อนกว่าวัยคะ

แบบที่ 1 พอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง (ประเทศสเปน)
วิธีการ : ล้างหน้าให้สะอาด เช็ดให้แห้งแล้วใช้ปลายนิ้วแตะน้ำผึ้งลูบไล้บนใบหน้าและลำคอเบาๆ สักครู่ แล้วนวดหน้าด้วยปลายนิ้วอย่างแผ่วเบาประมาณ 5 นาที จนน้ำผึ้งเหนียว นวดต่อไปไม่ได้แล้ว ก็ปล่อยทิ้ง ไว้ประมาณ 10-15 นาที ระหว่างนั้นให้นอนพัก ศีรษะอยู่ต่ำกว่าระดับปลายเท้า เพื่อให้เลือดไหลมาหล่อเลี้ยง ที่ใบหน้าและลำคอได้สะดวกยิ่งขึ้น เมื่อครบเวลาแล้วก็ค่อยๆ ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดน้ำผึ้งออก ให้สะอาด เป็นอันเสร็จพิธี


แบบที่ 2 พอกหน้าด้วยแอปเปิ้ล (ประเทศเบลเยี่ยม)
วิธีการ
: ปอกแอปเปิ้ล คว้านเอาไส้และเมล็ดออก บดให้ละเอียด ขณะที่บดให้ผสมน้ำผึ้งลงไปด้วย เมื่อบด จนเข้ากันดีแล้ว นำเอาส่วนผสมนี้มาพอกหน้าทิ้งไว้ 20 นาที แล้วใช้นมสดเย็นๆ ล้างออก

แบบที่ 3 พอกหน้าด้วยแตงโม (ประเทศตุรกี)
วิธีการ : ฝานแตงโมเป็นชิ้นบางๆ จากส่วนที่แดงที่สุด นำมาแปะให้ทั่วใบหน้า แล้วใช้ผ้าขาวบางคลุมหน้าไว้ ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น


แบบที่ 4 พอกหน้าด้วยไข่ขาว (ประเทศสวิตเซอร์แลนด์)
วิธีการ
: ต่อยไข่ไก่ 1 ฟอง แยกไข่แดงออกเทเฉพาะไข่ขาวลงในถ้วย ใช้ส้อมตีไข่ขาวจนเป็นฟองพอสมควร แล้วใช้แปรงขนนุ่ม จุ่มไข่ขาวทาให้ทั่วใบหน้าและลำคอ ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที จนไข่ขาวเริ่มจับตัวแข็ง แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น

แบบที่ 5 พอกหน้าด้วยน้ำมะนาวและน้ำผึ้ง (ประเทศฝรั่งเศส)
วิธีการ : ผสมน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ กับน้ำมะนาว 1 ช้อนชา คนให้เข้ากัน แล้วนำมาทาให้ทั่วทั้งใบหน้าและลำคอ ทิ้งไว้อย่างน้อย 30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น


แบบที่ 6 พอกหน้าด้วยมะเขือเทศ (ประเทศญี่ปุ่น)
วิธีการ
: ฝานมะเขือเทศ 1 ชิ้นหนาๆ ถูให้ทั่วใบหน้าและลำคอเบาๆ ตรงบริเวณที่มีสิวเสี้ยน มะเขือเทศมี วิตามินซีและกรด AHA จะช่วยลอกผิวหน้าที่ตายแล้วให้หลุดออกได้ หลังจากนั้นจึงค่อยใช้สำลีชุบน้ำเย็น เช็ดมะเขือเทศออกให้สะอาด


แบบที่ 7 พอกหน้าด้วยนมเปรี้ยว (ประเทศรัสเซีย)
วิธีการ
: สำหรับผู้ที่มีผิวหน้ามัน ล้างหน้าให้สะอาดก่อนจะเอานมเปรี้ยวที่แช่เย็นจัดพอกหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีหรือนานกว่านั้น แล้วใช้ผ้าขนหนูนุ่มๆ เช็ดออก ตำรานี้จะใช้ได้ผลดีมากในหน้าร้อน เพราะจะช่วยให้ ใบหน้าที่ซีดเซียวกลับเปล่งปลั่งขึ้นได้ จะเห็นว่าสูตรหน้าที่กล่าวมาทั้งหมด ทำได้ง่ายๆ จากของใกล้ๆ ตัวอันมาจากธรรมชาติโดยเฉพาะ ลองเลือก ใช้สูตรใดสูตรหนึ่งดู แล้วแต่คุณถนัดหรือพอจะหาวัตถุดิบได้ รับรองว่าใบหน้าขาวสวยใสคงอยู่ไม่ไกลเกิน เอื้อมแน่นอน...

ดับร้อน แก้เครียด ด้วย "กล้วยหอม"


     "กล้วย" เป็นผลไม้ที่หากินได้ง้าย..ง่าย ในเมืองไทย ปลูกก็ง่าย ซื้อหาก็ได้ในราคาไม่แพง แถมกินแล้วยังได้ประโยชน์
แสนคุ้ม แถมรสชาติยังอร่อยดีเสียอีก
   "กล้วยหอม" ก็เป็นกล้วยชนิดหนึ่งที่รสชาติดีแถมมีประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการช่วยบรรเทาอาการจุกเสียดแน่นท้อง
เพราะในกล้วยหอมมีสารลดกรดตามธรรมชาติอยู่ อีกทั้งยังช่วยแก้อาการไม่อยากจะตื่นในตอนเช้า (Morning Sickness)
หากกินกล้วยหอมในระหว่างมื้อเช้า เที่ยงหรือเย็น ก็จะช่วยปรับระดับน้ำตาลในเลือดและแก้อาการดังกล่าวในตอนเช้าได้
และในกล้วยหอมนั้นมีวิตามินบีอยู่มาก จะช่วยลดความเครียด และความอ่อนล้าได้
  คนที่เป็นโรคกระเพาะอาหารหรือเป็นแผลในลำไส้ การกินกล้วยหอมเป็นประจำยังทำให้มีการเคลือบผิวภายในกระเพาะ
อาหารลดการเป็นแผลในกระเพาะได้ และเส้นใยในกล้วยหอมก็จะช่วยให้การย่อยอาหารของลำไส้เล็กดีขึ้น ขับถ่ายได้ง่าย
อีกด้วย นอกจากนี้กล้วยหอมยังช่วยปรับระดับอุณหภูมิในร่างกาย การกินกล้วยหอมในวันที่อากาศร้อนๆ ก็จะช่วยให้อุณหภูมิ
ในร่างกายลดลงได้บ้าง      
  ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องกินเท่านั้น แต่ยังมีเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ อยู่ว่า ใครที่โดนยุงกัดเป็นตุ่มมา ให้ลองใช้เปลือกกล้วยหอมด้านใน
ถูบริเวณที่ถูกยุงกัด ก็จะสามารถช่วยลดอาการคันหรือบวมได้ด้วย




 ข้อมูลจาก  ผู้จัดการออนไลน์